Monday 5 September 2011

เฟรนช์ บลูด๊อก หูค้างคาว

"เฟรนช์ บูลด๊อก” จัดเป็นสุนัขอีกสายพันธุ์หนึ่งที่มีเสน่ห์อยู่ ในตัว ใครได้เห็นครั้งแรกจะต้องสะดุดและหยุดมองทันที เนื่องจากเป็นสุนัขที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ยากจะหาสุนัขพันธุ์ใดในโลกเสมอเหมือนคือ มีใบหูเหมือนหูค้างคาว, มีสีที่ลำตัวมากถึง 16 สี และมีเสียงหายใจที่เป็นเอกลักษณ์



เฟรนซ์ บลูด๊อก (French Bulldog)
สรุปลักษณะโดยรวมของสุนัขสายพันธุ์นี้คือ หน้าย่นหักสั้น จมูกบี้ รูปหน้าเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส หัวกลม ปากกว้าง รูปร่างเตี้ยล่ำ อกกว้าง ลำตัวและหางสั้น สำหรับลักษณะนิสัยเป็นสุนัขที่รักและติดเจ้าของ จะเห่าเมื่อเห็นคนแปลกหน้า เมื่อเลี้ยงอยู่ในบ้านจะเป็นมิตรกับทุกคน ที่สำคัญจัดเป็นสุนัขขนสั้นทำให้ดูแลความสะอาดง่าย

คุณศุภฤกษ์ สนองชาติ ชาวบุรีรัมย์ เริ่มเลี้ยงสุนัขเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2532 ขณะยังเป็นนักศึกษาอยู่ เริ่มแรกจะเลี้ยงสุนัขพันธุ์บ็อกเซอร์และร็อตไวเลอร์ ต่อมาในปี พ.ศ.2543 ได้นำเข้า “เฟรนช์ บูล ด๊อก” เพศเมีย สีครีม จากประเทศสาธารณ รัฐเช็กและได้นำเข้าเพศผู้สีครีมจากประเทศรัสเซีย ได้เลี้ยงและผสมพันธุ์สุนัขสายพันธุ์นี้จนประสบความสำเร็จส่งเข้าประกวดจนได้รับรางวัลใหญ่ ๆ และรางวัลที่มีความสำคัญทั้งในและต่างประเทศจนเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ด้วยการยึดหลักสำคัญในเรื่องของคอกเลี้ยงสุนัขจะต้องมีคุณภาพและได้มาตรฐาน ปัจจุบันมีการพัฒนาสายพันธุ์อย่างต่อเนื่องโดยเน้นหนักในเรื่องข้อตะโพกและหัวไหล่ สุนัขทุกตัวของที่แห่งนี้มีสายเลือดที่ดี



เฟรนซ์ บลูด๊อก (French Bulldog)
อาหารนับเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ ถึงแม้ว่าสุนัขจะมีสายพันธุ์ดีแค่ไหนหรือพ่อแม่เป็นแชมเปี้ยน ถ้าขาดการเอาใจใส่อาหารการกิน ไม่ดี ไม่มีทางที่จะ ทำให้สุนัขมีความสวยงามตรงตาม สายพันธุ์ได้ หลักการของการให้อาหารควรจะให้ลูกสุนัขได้ รับสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ กินน้อย ๆ แต่บ่อยครั้ง เนื่องจากลูกสุนัขตัวเล็ก กระเพาะอาหารจะเล็กตามไปด้วย อย่าให้ลูกสุนัขกินอาหารจนพุงกาง จำนวนมื้อในการให้อาหารสุนัขโดยทั่วไปแล้ว ก็ต้องดูที่ความต้องการอาหารของลูกสุนัขมากกว่า เช่น ตั้งแต่หย่านมจนถึงอายุ 3 เดือนจะให้วันละ 3-4 มื้อ, อายุ 3-6 เดือน จะให้วันละ 2-3 มื้อ, อายุ 6-12 เดือน จะให้วันละ 2 มื้อและเมื่อสุนัขมีอายุได้ 1 ปีขึ้นไปจะให้อาหารเพียงวันละ 1-2 มื้อเท่านั้น

เฟรนซ์ บลูด๊อก (French Bulldog)
โดยปกติแล้ว “เฟรนช์ บูลด๊อก” ชอบสภาพอากาศเย็น ถ้าจะเลี้ยงในห้องปรับอากาศควรจะตั้งอุณหภูมิประมาณ 27 องศาเซลเซียส ไม่ควรปรับแอร์ให้ ต่ำกว่า 23 องศาเซลเซียสอาจจะทำให้ เป็นโรคปอดชื้นได้ ถ้าไม่มีห้องแอร์ควรจะเป็นคอกที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี ไม่ร้อนจนเกินไป.

No comments:

แลกลิงค์

Create your own banner at mybannermaker.com!
Copy this code to your website to display this banner!
ต้องการแลกลิงค์ ติดต่อ plasmamax@gmail.com